ไอแบงก์จับมือ BCI เสริมแกร่งใช้บริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบบล็อกเชน (e-LG)
- ruangritn0
- 9 ต.ค.
- ยาว 1 นาที

กรุงเทพฯ, 9 ตุลาคม 2568 - ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เข้าร่วมใช้บริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน (Electronic Letter of Guarantee: e-LG) ซึ่งพัฒนาระบบโดยบริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (BCI) เพื่อยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการด้านหนังสือค้ำประกัน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลและความโปร่งใสของธุรกรรมการเงินตามหลักชะรีอะฮ์

ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) มุ่งมั่นให้บริการด้วยหลักคุณธรรมที่ใส่ใจ ห่วงใยทุกกลุ่มสังคมและบริหารงานด้วยความโปร่งใส ทำให้ไอแบงก์เป็นทางเลือกใหม่ที่แตกต่างสำหรับทุกคน โดยนำนวัตกรรมทางการเงินมาปรับใช้เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการ พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล ด้วยบริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบบล็อกเชน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านความโปร่งใส ความปลอดภัย และความสะดวกในการทำธุรกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำธุรกรรมที่มีมูลค่าสูง และมีผลค้ำประกันทางกฎหมายอย่างการออกหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์
อีกทั้งธนาคารยังให้ความสำคัญกับการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มองค์กรเดิมและใหม่ที่มีความตั้งใจในการเปลี่ยนผ่านขั้นตอนการทำงานสู่ระบบดิจิทัล โดยเฉพาะบริษัทเอกชนขนาดกลางและขนาดใหญ่ อาทิ บริษัท เฟริส์คอนคอนสตรัคชั่น จำกัด, บริษัท ชำนาญกิจ วิศวกรรม จำกัด, บริษัท แอร์บอร์น เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด, บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน), บริษัท แพร่พญาก่อสร้าง จำกัด,
บริษัท บ้านหมอ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท บางกอกไพบูลย์ จำกัด, บริษัท ช.หอมนานก่อสร้าง จำกัด, บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน), บริษัท เทวกฤต คอนสตรัคชั่น จำกัด, บริษัท เอเชีย อินโนเวชั่น แอร์ เทค จำกัด, บริษัท เอส.ดี.แอสฟัลท์ จำกัด, บริษัท พี.เอ.ที. อินโนเวทีฟโซลูชั่น จำกัด และบริษัท คิงส์ มิลลิ่ง (สุราษฎร์ธานี) จำกัด เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ไอแบงก์มีแผนขยายบริการอย่างต่อเนื่อง การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งในเป้าหมายหลักของธนาคารในการยกระดับบริการทางการเงินที่สอดคล้องกับบริบทเศรษฐกิจและสังคมยุคใหม่ ซึ่งเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยผลักดันเศรษฐกิจตาม หลักชะรีอะฮ์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน”

นายสิริวัฒน์ เกียรติเจริญสิน ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “BCI รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการสนับสนุนเศรษฐกิจและธุรกิจภายใต้การเงินแบบอิสลามที่สอดคล้องตามหลักศาสนาและเชื่อว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของ BCI ในการมุ่งนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยยกระดับการให้บริการทางการเงินให้ทันสมัยและปลอดภัยผ่านการให้บริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบบล็อกเชน (e-LG) ซึ่งทำให้ลูกค้าของไอแบงก์ สามารถทำธุรกรรมด้านหนังสือค้ำประกันได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมั่นใจได้ยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงจากเอกสาร สูญหาย ถูกปลอมแปลง จากการออกหนังสือค้ำประกันในรูปแบบกระดาษ
ทั้งนี้ BCI ขอขอบคุณไอแบงก์เป็นอย่างยิ่งที่ให้ความไว้วางใจและเข้าร่วมเป็นสมาชิกธนาคารผู้ให้บริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบบล็อกเชน ซึ่งแสดงถึงความร่วมมือของภาคธนาคารร่วมขับเคลื่อนระบบการเงินไทยสู่ความโปร่งใสในยุคดิจิทัล”

การร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนถึงเจตนาร่วมของทั้งสององค์กรในการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาบริการทางการเงินให้ทันสมัย ปลอดภัย และตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างแท้จริง เราขอเชิญชวนลูกค้าของไอแบงก์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จครั้งนี้ ด้วยการใช้บริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน



ความคิดเห็น